"อ้าว... เอ็ม" ผมหันไปตามเสียงเรียก
"สวัสดีครับพี่ชาติ" ผมยกมือไหว้
"เออ... เอ็ม พอดีเมื่ออาทิตย์ก่อน เพื่อนพี่เขามา
ออกกำลังกายด้วย เขาบอกว่าเอ็มน่าจะเป็นรุ่น
น้องที่มหา'ลัยเขา"
"ครับพี่" ผมรับคำ
"เอาเบอร์โทรฯ เอ็มให้พี่หน่อยสิ
เดี๋ยวให้โทรฯ คุยกันเอง"
"ได้ครับ" ผมตอบพร้อมยื่นนามบัตรให้พี่ชาติ
และเดินเข้าห้องออกกำลังกาย ตามปกติ
"ฮัลโหล.."ผมรับสายด้วยความทุลักทุเล เพราะ
กำลังก้าวลงจากรถไฟฟ้า
"น้องเอ็ม... นี่พี่ขจรนะ เป็นเพื่อนของชาติ"
"อ๋อ... ครับ สวัสดีครับพี่ขจร"
วันนั้นพี่ขจร ถามผมหลายอย่างและเราก็คุยกัน
หลายเรื่อง พี่ขจรเป็นคนคุยเก่งและคุยสนุก
เราจึงเริ่มสนิทกัน บางครั้งพี่ขจรก็แวะมาที่ยิม
ที่ผมเป็นสมาชิกอยู่ แกไม่ได้มาออกกำลังกาย
แต่มาชวนผมไปดื่มเบียร์(ซะงั้น 555)
ผมก็ไปบ้าง ปฏิเสธบ้าง หลังจากรู้จักกัน
ได้ประมาณ เดือนกว่า พี่ขจรก็ชวนผมไปดื่มกันที่บ้าน
....
เย็นวันศุกร์ พี่ขจรก็โทรมาถามย้ำ ว่าจะแวะไปที่บ้านแกไหม ?
ผมตอบตกลง หลังเลิกงาน ผมซื้อเบียร์ยี่ห้อที่เราดื่มกัน
แล้วขึ้นแท็กซี่ เข้าไปตามที่อยู่ที่พี่ขจรบอก
ผมกดกริ่งหน้าบ้าน ไม่นานนักพี่ขจรก็เดินออก
มาเปิดประตู ผมอวดเบียร์ที่ซื้อมา
พี่ขจรหัวเราะ แซวว่า "นี่ดื่มกันได้เป็นเดือนเลยนะเนี่ย"
ผมหัวเราะแล้วตอบกลับไปว่า
"แม่ค้าเขาบอกว่า ยิ่งซื้อเยอะยิ่งลดเยอะน่ะครับ"
หลังจากแช่เบียร์เรียบร้อยแล้ว พี่ขจรก็แนะนำ
ให้ผมรู้จักพี่นิด ผมยกมือไหว้พี่นิด
แล้วพี่นิดก็บอกว่า"หนุ่มๆ นั่งดื่มกันไปก่อนนะ เดี๋ยวกลับแกล้มจะตามมา"
วันนั้นเรานั่งดื่มกันจนถึงเกือบเที่ยงคืน
ผมจึงขอตัวกลับ พร้อมกับอาการที่เรียกว่า
"เมาแน่น" ทีเดียว
หลังจากวันนั้น พี่ขจรก็มักจะชวนผมไปดื่มที่บ้าน
เกือบทุกวันศุกร์ จนพี่นิด และผมเริ่มคุ้นเคยและ
พูดคุยกันมากขึ้น ส่วนพี่ขจร ก็ยังเป็นคนคุย
เก่งและคุยสนุกเหมือนเดิม
....
วันนี้ก็เหมือนเดิม พี่ขจรชวนผมมาดื่มที่บ้าน
"นี่ เอ็ม วันนี้มีกับแกล้มพิเศษ เฉพาะคนพิเศษ
เลยนะเนี่ย" พี่ขจรบอก
"รสมือพี่นิดอร่อยทุกอย่างครับ" ผมตอบ
พี่ขจรอมยิ้ม แล้วชวนผมไปนั่งดื่ม
"ช่วงสอง สามเดือนมานี้เอ็มว่านิด เขาผอมลงหรือเปล่า ?"
พี่ขจรถามเปิดประเด็น
"ใช่ครับ ผมว่าน่าจะลงไม่น้อยกว่า 9 กิโลครับ"
ผมตอบไป
"ลงไป 11 กิโล" พี่ขจรเฉลย
"ยิ่งลีนเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีต่อสุขภาพครับ"
ผมพูดพร้อมกับยกเบียร์ขึ้นดื่ม
"หุ่นชัดเลยเนอะ ! นมเป็นนม เอวเป็นเอว
สะโพกเป็นสะโพก" พี่ขจรเสริม
ผมได้แต่ยิ้มและพยักหน้า ไม่กล้าออกตัวแรง
และผมเองก็ไม่เคยได้สังเกตหรือจ้องมองชัดๆ มาก่อน(ใครจะไปจ้องดูนมเมียพี่ล่ะ ?)
แต่พี่ขจรก็ยังชวนคุยเรื่องรูปร่างของพี่นิดตลอดพร้อมกับ
อวดว่านมพี่นิดน่ะ คัพ C เลยนะ
จนตอนที่พี่นิดยกกับแกล้มและเบียร์มาเพิ่ม
ผมอดใจไม่ไหวแอบมองหุ่นพี่นิดไปหลายที
.....
หลังจากดีกรีในกระแสเลือด เริ่มเพิ่มมากขึ้น
พี่ขจรทำเสียงเข้มถามผมว่า "รู้จักสวิงกิ้งไหม ?"
"เคยได้ยินมาเหมือนกันครับพี่" ผมตอบกลับไป
แบบซื่อๆ แต่ก็เริ่มรู้สึกวูบๆ ไม่รู้ว่าเพราะเรื่องที่
พี่ขจรถามหรือเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
พี่นิดยกกับแกล้มจานสุดท้ายมาที่โต๊ะ
พร้อมเบียร์อีก 2 กระป๋อง แล้วลงนั่ง
สายตาซุกซนของผม มองผ่านคอเสื้อของพี่นิด
ตอนที่โน้มตัวลงนั่ง จนเจ้าค_ย ของผม
เก็บอาการไม่อยู่ ต้องแอบเอามือหลบลงใต้โต๊ะ
เพื่อจัดตำแหน่งให้มัน
พี่นิดนั่งกินกับแกล้มกับพวกเราอยู่พักใหญ่(พี่นิดเป็นคนไม่ดื่ม)
จากนั้นก็ขอตัวไปอาบน้ำ
แต่ครั้งนี้ผมรู้สึกว่ามีอะไรแปลกไปกว่าทุกครั้ง
เพราะพี่นิดนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว แล้วเดินผ่านโต๊ะที่เรานั่งดื่ม เพื่อไปหยิบโทนเนอร์ล้างเครื่องสำอาง
ซึ่งเท่าที่ผมเคยมาที่บ้านนี้พี่นิดจะเป็นคนมิดชิดมาก
ภาพที่พี่นิดนุ่งผ้าขนหนูเพียงผืนเดียวเดินผ่านไปมา อวดรูปร่างท้าสายตา ทำเอาค_ยของผมยิ่งแข็งขึ้นไปอีก
"คิดบ้าๆ น่า!" ผมแอบบ่นตัวเองในใจ
หลังจากพยายามจัดตำแหน่งค_ย อยู่หลายที
พี่ขจรคงสังเกตอาการยุกยิกของผมได้ พอผม
ยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม เป็นจังหวะเดียวกับที่ผมเหลือบ
ไปสบตาพี่ขจร และผมเห็นพี่ขจรกำลังนั่งอมยิ้ม
"เอ็ม ช่วยพี่หน่อยนะ..."
พี่ขจรพูดทำลายความเงียบขึ้น
แล้วลุกเดินข้ามฝั่งโต๊ะมาตบไหล่ผม พร้อมกับฉุด
ให้ผมลุกขึ้นยืน แล้วชี้มือให้ผมเดินไปที่บันได
ผมเดินไปแบบจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
คิดไปต่างๆ นานา พี่ขจรรุนหลังผมเบาๆ
ให้เดินขึ้นบันได จนมาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง